ผลกระทบของไวรัส Covid-19 ต่อน้ำยาง NBR

น้ำยาง NBR มีคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยม เช่น ทนทานต่อน้ำมันและสารเคมีอื่นๆ ซึ่งทำให้เป็นที่ต้องการอย่างมากในการผลิตอุปกรณ์ป้องกัน โดยเฉพาะถุงมือสำหรับภาคอุตสาหกรรมและการดูแลสุขภาพ คาดว่าการเจาะตลาดที่เพิ่มขึ้นนี้จะสร้างโอกาสมากมายในตลาดน้ำยางไนไตรล์บิวทาไดอีนตลอดช่วงคาดการณ์

การขยายตัวของอุตสาหกรรมในภูมิภาคกำลังพัฒนาควบคู่ไปกับการตระหนักรู้ที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความปลอดภัยด้านแรงงานจะส่งผลดีต่อการเติบโตของตลาดในช่วงระยะเวลาการทบทวน นอกจากนี้ การใช้ถุงมือที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมเคมี กระดาษ และอาหารก็มีแนวโน้มที่จะกระตุ้นส่วนแบ่งการตลาดน้ำยางไนไตรล์บิวทาไดอีนตลอดช่วงระยะเวลาคาดการณ์

ไวรัส COVID-19 ที่แพร่ระบาดไปทั่วโลกส่งผลให้ค่าใช้จ่ายด้านการดูแลสุขภาพเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ความต้องการถุงมือยาง NBR เพิ่มขึ้นในช่วงคาดการณ์ COVID-19 ทำให้มีการใช้ถุงมือเพื่อการป้องกันส่วนบุคคลเพิ่มมากขึ้น และคาดว่าจะส่งผลให้ความต้องการน้ำยางไนไตรล์บิวทาไดอีนในตลาดเพิ่มขึ้นในปี 2020

คาดว่าความต้องการน้ำยาง NBR สำหรับอุตสาหกรรมและผู้บริโภคปลายทางในอุตสาหกรรมอาหารจะยังคงอยู่ในระดับต่ำในช่วงระยะเวลาการปิดเมืองในช่วงต้นปี 2563 อย่างไรก็ตาม คาดว่าอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพจะมีความต้องการสูงเป็นประวัติการณ์ในช่วงเวลาเดียวกัน

การเติบโตในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกคาดว่าจะเติบโตที่ CAGR สูงสุดในช่วงระยะเวลาคาดการณ์ การขยายกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นของผู้ผลิตหลักควบคู่ไปกับการใช้จ่ายด้านการดูแลสุขภาพที่เพิ่มขึ้นมีแนวโน้มที่จะผลักดันตลาดน้ำยางไนไตรล์บิวทาไดอีนในช่วงเวลาที่กำหนดระหว่างปี 2020-2026 มาเลเซีย ไทย และจีนมีส่วนสนับสนุนการเติบโตของตลาดอย่างมาก คาดว่าตะวันออกกลางและละตินอเมริกาจะแสดงให้เห็นถึงการเติบโตที่ชะลอตัวตลอดช่วงระยะเวลาคาดการณ์ จำนวนผู้ผลิตน้ำยาง NBR ในภูมิภาคที่มีจำกัดและการพึ่งพาการนำเข้าที่สูงเป็นปัจจัยที่ทำให้การเติบโตช้าลง ธุรกิจน้ำยาง NBR ของตะวันออกกลางคาดว่าจะเติบโตที่ CAGR มากกว่า 3% เล็กน้อยในช่วงระยะเวลาประเมิน (ข้อมูลจาก Global Market Insights Inc.)